งานการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษา ๑) เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาจุดมุ่งหมายพิธีกรรมและปัญหาผลกระทบการทำบุญกฐิน ๒)เพื่อศึกษาค่านิยมในการทอดกฐินของประชาชนในจังหวัดขอนแก่น และค่านิยมของแต่ละบุคคลในการทำบุญทอดกฐินของประชาชนในจังหวัดขอนแก่น และ ๓) เพื่อศึกษายุทธศาสตร์การส่งเสริมค่านิยมการทอดกฐินที่เหมาะสม ด้านประชากรและกลุ่มตัวอย่างของการวิจัยประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่จะศึกษาการวิจัยครั้งนี้ มีพระสงฆ์ เจ้าภาพหรือประธานจัดทำบุญทอดกฐินผู้ที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมการทอดกฐินที่วัดในเขตจังหวัดขอนแก่น ที่เป็นวัดพระอาราหลวงชนิดสามัญสามวัด มีวัดราษฎร์ฝ่ายมหานิกายสามวัด มีวัดราษฎร์ฝ่ายธรรมยุติสองวัด จำนวน ๑,๐๐๐ หน่วย ที่ใช้ในการวิเคราะห์เป็นปัจเจกบุคคล ตัวแปรอิสระที่ใช้การศึกษาประกอบด้วย เพศ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพทางสังคม อาชีพ รายได้ต่อเดือน การตีความหมายของค่านิยมการทำบุญทอดกฐิน แหล่งส่งเสริมปรับปรุงทางสังคม ทัศนะต่อบทบาทของพระสงฆ์ ความคาดหวังจากค่านิยมการทำบุญทอดกฐิน ค่านิยมเชิงคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมปริมาณเชิงบริโภค เครื่องมือที่นำมาใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การคำนวณหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบหาความสัมพันธ์ระหว่าง ๒ ตัวแปรด้วยสถิติ ไค-สแควร์ และสัมประสิทธิ์สหสัมพันพันธ์แบบเพียร์สัน ทดสอบหาอิทธิพลของตัวแปรอิสระหลายตัวที่มีต่อตัวแปรตามด้วยสถิติถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS For Windows
ผลการศึกษาพบว่า ชาวพุทธในจังหวัดขอนแก่นส่วนมากมีพฤติกรรมค่านิยมการทำบุญทอดกฐินในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อย ๗๑.๙ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า เรื่องการให้ทานกลุ่มตัวอย่างชาวพุทธส่วนมากร้อยละ ๖๑.๗ มีค่านิยมในการให้ทานในระดับปานกลาง เรื่องค่านิยมในคุณธรรมจริยธรรมศีลธรรมส่วนมากร้อยละ ๔๒.๑ ค่านิยมการทำบุญทอดกฐินตามเทศกาลส่วนมากร้อยละ ๕๑.๕ การฝึกภาวนาในระน้อย
จากการทดสอบหาปัจจัยที่มีอิทธิพลด้วยสถิติถดถอยพหุคูณพบว่าปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อค่านิยมการทำบุญทอดกฐินของชาวพุทธในจังหวัดขอนแก่น ได้แก่ ค่านิยมเชิงคุณธรรมจริยธรรม อายุ สถานภาพทางสังคม ค่านิยมเชิงบริโภคทัศนะต่อบทบาทพระสงฆ์ และแหล่งส่งเสริมปรับปรุงทางสังคม ตัวแปรอิสระทั้งหมดร่วมกันอธิบายความผันแปรของพฤติกรรมค่านิยมการทำบุญทอดกฐินของชาวพุทธได้ประมาณร้อยละ ๓๘